วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กาแฟที่แพงที่สุดในโลก

คำสำคัญ Coffee, Civet
กลิ่นหอมหวนของมันอาจจะเป็นกลิ่นที่คุณชินจมูก รสขมเข้มของมัน อาจจะเป็นรสที่ ปลายลิ้นของ
คุณคุ้นเคย และมันอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณขาดมันไม่ได้ในตอนเช้า ช่วยขับไล่ ความง่วงงุน เปิดดวงตา
และสมองให้แจ่มใสพร้อมจะเริ่มต้นวันใหม่อย่างกระปรี้กระเปร่า...ใช่แล้ว มันคือกาแฟนั่นเองปัจจุบันนี้
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายในเกือบทุกมุมของโลก ไม่ว่าจะไปแห่งหนไหน ก็จะหาร้าน
กาแฟสักร้านได้ไม่ยาก แต่รู้ไหมว่า ครั้งหนึ่งกาแฟเคยเป็นความลับสุดยอดของประเทศแถบอาหรับ
และยังเคย ได้รับการกล่าวหาว่าเป็นเครื่องดื่มของปีศาจร้ายด้วย
ประวัติของกาแฟโดยย่อ
ตำนานหนึ่งเล่าว่า กาแฟถูกค้นพบโดยบังเอิญ เนื่องจากขายเลี้ยงแกะที่เผลองีบหลับไป
ตื่นขึ้นมาพบว่า แกะในฝูงของเขาล้วนออกอาการคึกคัก หลังจากที่กินลูก “เบอรี่” สีแดงจากต้นไม้ใบเขียว
เขาก็เลยลองชิมดูบ้าง และพบว่า ตัวเองก็รู้สึกตาสว่าง เต็มไปด้วยพลังงาน ไม่ต่างอะไรจากแกะในฝูงเลย
เขานำสิ่งที่พบนี้ ไปปรึกษากับหัวหน้าพระอย่างตื่นเต้น แต่หัวหน้าพระกลับไม่ไว้วางใจลูก “เบอรี่”
นี้ จนถึงกับโยนมันเข้าไปในกองไฟ และสั่งสอนชายเลี้ยงแกะว่า มันเป็นสิ่งล่อล่วงจากปีศาจร้าย
ขณะที่หัวหน้าพระกำลังเทศนาชายเลี้ยงแกะอยู่นั้น ลูก “เบอรี่” ที่อยู่ในกองไฟถูกเผาไหม้ส่งกลิ่น
หอมหวน จนพระองค์อื่นๆ อดรนทนไม่ได้ ต้องเดินตามกลิ่นนั้นเข้ามา และนั่นก็ทำให้หัวหน้าพระเปลี่ยนใจ
คิดใหม่ว่า ลูก “เบอรี่” นี้จะต้องเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประธาน มาให้เป็นแน่แท้ เพราะกลิ่นของมัน
เรียกพระองค์ อื่นๆ เข้ามา
หัวหน้าพระนำลูก “เบอรี่” ที่ถูกเผาไฟจนเป็นสีเข้มออกมาบด และเทน้ำใส่ ทำเป็นยาอายุวัฒนะ
ซึ่งทำให้พวกพระตาสว่างสวดมนต์สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าตลอดทั้งคืน
อีกตำนานเล่าว่า ชาวอราเบียนคนหนึ่งกับพรรคพวกของเขา ถูกเนรเทศเข้าไปในทะเลทราย
เพื่อให้ตกตายเพราะความหิวโหย ระหว่างที่กำลังเข้าตาจนอยู่นั้น เขาและเพื่อนต้มลูกไม้ที่ไม่รู้จักมาดื่ม
ประทังชีวิต เครื่องดื่มนั้นไม่ได้เพียงแค่ทำให้พวกเขารอดชีวิตเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ลงหลักปักฐาน
ในเมืองที่ใกล้ที่สุดชื่อ ม็อคค่า (Mocha) พืชและเครื่องดื่มที่ทำจากพืชนั้น จึงได้รับชื่อว่า ม็อคค่า
เพื่อเป็นเกียรติต่อเหตุการณ์นั้นด้วย
2
ตำนานทั้งสองมีความเท็จจริงอย่างไร ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ แต่เป็นที่แน่นอนว่า
กาแฟถูกค้นพบมาเป็นพันปีก่อนคริสตศักราชแล้ว ต้นกาแฟนั้นเติบโตตามธรรมชาติในประเทศเอธิโอเปีย
แต่สมัยนั้นชนเผ่า กาลล่า (Galla) ของประเทศเอธิโอเปีย ไม่ได้ดื่มกาแฟ พวกเขาห่อเม็ดกาแฟ
ไว้ในไขมันสัตว์ เพื่อกินเป็นแหล่งพลังงานระหว่างที่ทำศึกกับต่างเผ่า
พ่อค้าชาวอาหรับนำต้นกาแฟกลับมายังถิ่นเกิดปลูกต้นกาแฟเหล่านี้ และเริ่มต้มเม็ดกาแฟ
เป็นเครื่องดื่ม โดยให้ชื่อว่า “คาห์วา (qahwa)” ซึ่งแปลได้ตรงตัวว่า “ทำให้ไม่หลับ”
กว่าที่กาแฟจะเป็นที่รู้จักกันนอกประเทศแถบอาหรับนั้นก็หลังจากนั้นอีกนานเพราะชาวอาหรับเชื่อ
ว่ากาแฟเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปกป้องมันราวกับเป็นความลับสูงสุดทางทหาร รัฐบาลถึงกับห้ามการนำต้น
กาแฟ ออกจากประเทศเลยทีเดียว
การที่กาแฟแพร่หลายจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปได้นั้นต้องขอบคุณชาวอาหรับที่ทำผิดกฎหมายคนหนึ่ง
ด้วยการแอบขนเม็ดกาแฟไปจนถึงภูเขาในประเทศอินเดีย และเริ่มปลูกไร่กาแฟที่นั่น หลังจากนั้น
กาแฟก็เป็นที่รู้จักของหลายประเทศมากยิ่งขึ้น และมาถึงประเทศในยุโรปเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1600
โดยพ่อค้าชาวอิตาเลียน
ในประเทศอิตาลี โป๊ป เคลเมนท์ ที่แปด (Pope Clement VIII) ได้รับคำยุยงจากที่ปรึกษาว่า
กาแฟนั้น เป็นเครื่องดื่มของปีศาจร้าย และควรจะทำการสั่งห้ามดื่มเสีย แต่โป๊ป เคลเมนท์ ที่แปด
กลับตัดสินใจ ที่จะทำการล้างบาปกาแฟด้วยการ ทำพิธีล้างบาป (baptize) เสียแทน เพื่อทำให้เครื่องดื่มนี้
เหมาะสมสำหรับชาวคริสเตียน
ร้านกาแฟร้านแล้วร้านเล่าจึงได้เปิดทำการขึ้นในแถบยุโรป เริ่มตั้งแต่ อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส
และไปไกลถึงอเมริกา จนถึงบัดนี้ แทบจะไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่รู้จักกาแฟอีกเลย
เม็ดกาแฟล้ำค่าจากมูลชะมด
ปัจจุบันนี้ กาแฟเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก มีการคั่ว ผสม ให้มีรสหลากหลาย ถูกปากผู้คนทุกระดับ
ตั้งแต่ เอสเพสโซ่ รสเข้มข้น คาปูชิโน่ รสนุ่มนวล หรือ คาเฟลาเต้ รสกลมกล่อมราคามีตั้งแต่ถ้วยละไม่กี่บาท
จนถึงถ้วยละหลายร้อยบาท
แต่กาแฟที่แพงที่สุดในโลกล่ะ คืออะไร คำตอบก็คือ โคปิ ลูแว็ค (Kopi Luwak) คุณอาจจะมีคำถาม
อยู่ในใจทันทีว่า โคปิ ลูแว็ค เป็นกาแฟแบบไหน แล้วทำไมมันถึง ได้เป็นกาแฟ ที่แพงที่สุดในโลก
คำตอบก็คือ เนื่องจากเม็ดกาแฟที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดทุกวันนี้ มาจากต้นกาแฟเพียงไม่กี่พันธุ์เท่านั้น
ที่รู้จักกันดีก็เช่น โรบัสต้า (Robusta) หรือ อราบิค่า (Arabica) ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ กำหนดคุณภาพและ
ราคาของกาแฟนั้นก็คือ เม็ดกาแฟนั้นมาจากที่ไหน
3
โคปิ ลูแว็ค เป็นกาแฟโรบัสต้าชนิดหนึ่ง แต่สามารถพบได้เพียงในเกาะใหญ่สามเกาะ
ของประเทศอินโดนีเซีย คือ สุมาตรา จาวา และ สุลาเวซิ และบางพื้นที่ในประเทศเวียดนามเท่านั้น
นอกจากกาแฟชนิดนี้จะหาได้จากบริเวณที่จำกัดแล้ว กว่าจะมาเป็นเม็ดกาแฟ โคปิ ลูแว็ค ได้
เม็ดกาแฟยังจะต้องผ่านกระบวนการพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย กาแฟนี้จึงเป็นกาแฟหายากผลผลิต
น้อยมาก ประมาณ 500 ปอนด์ ต่อปี นอกจากนั้น มันยังเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมสูงอีกด้วย
ในไร่กาแฟทั่วๆไป สัตว์ที่กินเม็ดกาแฟเป็นอาหาร จัดเป็นศัตรูร้าย แต่ไร่กาแฟในสามเกาะใหญ่
ของประเทศอินโดนีเซียนี้ ยินดีต้อนรับสัตว์ที่กินเม็ดกาแฟเป็นอาหาร ที่เรียกว่า ชะมด (Palm Civet)
ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Paradoxurus hermaphroditus เป็นอย่างดี
ชะมดเป็นสัตว์ขนาดเล็ก หนักเพียงประมาณ 11 ปอนด์หรือประมาณ 5 กิโลกรัมเท่านั้น
มีลักษณะคล้ายแมว แต่แท้จริงแล้ว จะใกล้เคียงกับแร็คคูนมากกว่า ชะมดอาศัยและปีนป่ายอยู่ตามต้นไม้
เป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน โดยมีอาหารหลักคือ ผลไม้ แมลง และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ
แต่ชะมดที่อาศัยอยู่ในไร่กาแฟนั้น โปรดปรานเม็ดกาแฟเป็นอย่างมาก แถมยังเลือกกินเฉพาะเม็ด
ที่สุกที่สุดอีกด้วย แต่มันกลับไม่ใช่ศัตรูของผู้ผลิตกาแฟเลยแม้แต่น้อย เพราะระบบย่อยอาหาร
ของสัตว์ประเภทนี้ เพียงย่อยเปลือกนิ่มส่วนนอกของเม็ดกาแฟไปเท่านั้น เม็ดกาแฟที่ใช้สำหรับผลิตกาแฟ
ยังคงอยู่ในรูปร่างเดิม และถูกถ่ายออกมาพร้อมกับกากของเสียอื่นๆ ในมูลของมัน ซึ่งรวบรวมได้ง่าย
เพราะชะมด จะถ่ายตรงที่เดิม เป็นประจำ
กรดและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารของชะมดทำปฏิกิริยาทางเคมี คล้ายกับการหมัก
(Fermentation) กับเม็ดกาแฟสุก ทำให้เกิดผลผลิตเป็นเม็ดกาแฟที่หายาก และแพงที่สุดในโลก
ชาวท้องถิ่นเรียกชะมดเหล่านี้ว่า ลูแว็ค ส่วน โคปิ คือ กาแฟ และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อ โคปิ ลูแว็ค
หรือแปลตรงตัวว่า กาแฟจากชะมดนั่นเอง
ผู้ที่เคยชิม โคปิ ลูแว็ค บอกว่า มันมีกลิ่นอายของป่า รสอร่อยเนื้อกาแฟเข้มข้น จนเกือบ
เหมือนน้ำเชื่อม มีรสของช็อกโกแล็ตกับคาราเมลเจืออยู่เล็กน้อย ดื่มแล้วรสสะอาดสดชื่นติดลิ้น
ดังนั้นถ้าคุณเบื่อกาแฟรสธรรมดาๆ อย่าง เอสเพสโซ่ คาปูชิโน่ หรือ คาเฟลาเต้ แล้ว
และอยากลองกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้วละก็ ลองพิจารณากาแฟ โคปิ ลูแว็ค ซึ่งเป็นกาแฟ
แพงที่สุดในโลกดูบ้างไหม ราคาก็ไม่เท่าไหร่ กิโลกรัมละประมาณ 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 40,000
บาท) เท่านั้นเอง
4
เอกสารอ้างอิง
PageWise, Inc, What is the history of coffee, ออนไลน์, http://momo.essortment.com/whatisthehist_poo.htm, วันที่
เข้าถึง 10 มีนาคม 2548
Mr. Cappuccino, The History of Coffee, ออนไลน์, http://www.telusplanet.net/public/coffee/history.htm, วันที่เข้าถึง 10
มีนาคม 2548
IFIS Publishing, Kopi Luwak - top cat amongst coffees? ออนไลน์, http://www.foodsciencecentral.com/fsc/ixid13883,
วันที่เข้าถึง 10 มีนาคม 2548
”______”, Coffee, ออนไลน์, http://www.ringsurf.com/info/food/Coffee.html,วันที่เข้าถึง 8 มีนาคม 2548
Susan Lumpkin, Coffee Luwak, ออนไลน์, http://nationalzoo.si.edu/Publications/ZooGoer/1996/4/coffeeluwak.cfm,วันที่
เข้าถึง 8 มีนาคม 2548
15 มีนาคม 2548
โครงการฟิสิกส์และวิศวกรรม
โทร.0-2201-7123
E-mail: poovadee@yahoo.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น